การพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaborative Space)
เราจะทำให้เด็กนักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างเท่าเทียมได้อย่างไร?
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ นำกระบวนการระดมความคิด (Brainstorm) ผ่านการใช้ทฤษฎีหมวก 6 ใบ (Six Thinking Hats) เข้ามาช่วยในออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งกระบวนการระดมความคิดนั้นได้ช่วยทำให้นักเรียนเกิดการระดมสมองร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อให้ได้มาซึ่งชุดความคิดใหม่ ๆ ผ่านการเปิดกว้างทางความคิดอย่างอิสระ โดยสมาชิกทุกคนในกลุ่มนั้นจะมีบทบาทหน้าที่ในการแสดงความคิดเห็นร่วมกันอย่างเท่าเทียม
ทฤษฎีหมวก 6 ใบเป็นเทคนิคของ ดร. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบ โน (Edward de bono's) ศาสตราจารย์ด้านการคิดชาวอิตาลี โดยกระบวนการดังกล่าวเป็นการใช้หมวก 6 สีที่จะช่วยให้เรามีมุมมองแบบรอบด้านและยังเป็นวิธีการคิดที่จะช่วยให้เราสามารถจัดระเบียบความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้นักเรียนทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตนเองผ่านวิธีการคิดอย่างเป็นระบบ รวมถึงนักเรียนยังสามารถที่จะมีมุมมองความคิดแบบรอบด้านเพื่อนำไปสู่การแสดงความคิดเห็นของตนเองร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเท่าเทียม
โครงการ Collaborative space เป็นกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นในรูปแบบของการทำฟา หรือ Facilitation of learning (การอำนวยกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนากลุ่มเป้าหมาย) ภายใต้หัวข้อการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ในวิชาหน้าที่-พลเมือง เรื่องการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทางสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการคือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต จำนวน 10 คน
ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเห็นได้ว่าผู้เข้าร่วมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการระดมความคิด (Brainstorm) และสามารถนำกระบวนการนี้ ไปปรับใช้ในการศึกษาหรือการทำงานในอนาคตได้อย่างเหมาะสม รวมถึงผู้เข้าร่วมยังเกิดความมั่นใจในการแสดงจุดยืนทางความคิดของตนเองมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะแลกเปลี่ยนจุดยืนของตนเองร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเท่าเทียม และตระหนักถึงความสำคัญในการเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างของผู้อื่น อีกทั้งผู้เข้าร่วมสามารถเห็นถึงความสำคัญในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การพัฒนาทักษะหรือศักยภาพในการทำงานร่วมกับผู้อื่นเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้มีข้อบกพร่องเมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น นำไปสู่การไม่ประสบความสำเร็จหรือการไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ในอนาคต
ที่มา : โครงการนวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง (Innovative Project for Change) ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ่านบทความต่อไป …..YOU’RE NOT ALONE......