Scholarship of Teaching and Learning: SoTL10
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ ร่วมกับสถาบันคลังสมองของชาติ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยกว่า 10 แห่ง จัดงานสัมมนาวิชาการ โครงการสัมมนาวิชาการการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ครั้งที่ 10
เมื่อวันที่ 3 - 4 กรกฎาคม 2567 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ ร่วมกับสถาบันคลังสมองของชาติ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยกว่า 10 แห่ง จัดงานสัมมนาวิชาการ “โครงการสัมมนาวิชาการการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ครั้งที่ 10” (Scholarship of Teaching and Learning: SoTL10) ณ อาคารสิริวิทยลักษณ์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ภายใต้หัวข้อ “ขยายพรมแดนนวัตกรรมการเรียนรู้: สำรวจภูมิทัศน์แนวโน้มและแนวปฏิบัติร่วมสมัย”
โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในพิธีเปิดงานอย่างพร้อมเพรียง ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน รองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ อดุลยฤทธิกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ และได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.บวร ปภัสราทร ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตอุดมศึกษาไทย: ความท้าทายและโอกาส” เพื่อชี้ให้เห็นทิศทางสำคัญของระบบอุดมศึกษาไทยในอนาคต ทังนี้ ภายในงานยังได้รับความสนใจจากผู้แทนภาครัฐ ภาคการศึกษา และสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กว่า 300 คน
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน โดยสะท้อนถึงความท้าทายของระบบอุดมศึกษาไทยในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเรียน การสอน และงานวิจัย พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาทักษะใหม่ (reskill/upskill) ของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เพื่อให้สามารถปรับตัวและขับเคลื่อนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงความหวังว่างาน SoTL10 จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อสร้าง “โลกแห่งการเรียนรู้ไร้พรมแดน” ที่ความรู้สามารถเติบโตและเข้าถึงได้อย่างอิสระ
รองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ อดุลยฤทธิกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า งาน SoTL10 มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ 1) เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการเรียนการสอน นวัตกรรม และนโยบายการศึกษา 2) ส่งเสริมการพัฒนาและแบ่งปันผลงานสร้างสรรค์จากห้องเรียนจริง และ 3) เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมเสวนา เวิร์กชอป การประกวดนวัตกรรม Show & Share และนิทรรศการนวัตกรรมการเรียนรู้ รวมกว่า 100 ผลงาน
ด้าน ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวในพิธีเปิดว่า โลกปัจจุบันกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนจากอิทธิพลของโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา กระทรวงฯ จึงได้ผลักดันนโยบาย “AI University” เพื่อให้ผู้เรียนมีพื้นฐานด้าน AI พร้อมจัดตั้งศูนย์ส่งเสริม AI ในทุกสถาบันอุดมศึกษา รวมถึงโครงการ Credit Bank และ Skill Portfolio เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะเพื่อความพร้อมในการทำงาน
ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.บวร ปภัสราทร ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตอุดมศึกษาไทย: ความท้าทายและโอกาส” โดยระบุว่า โอกาสสำคัญของอุดมศึกษาไทยอยู่ที่การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเน้นการพัฒนาความลึกทางทฤษฎีและการคิดเชิงวิพากษ์ ดร.บวรเสนอให้ใช้ “กรอบมาตรฐานวิชาชีพ” (Professional Standards Framework: PSF) เป็นเป้าหมายเชิงรูปธรรมในการพัฒนาตนเองของอาจารย์ และย้ำว่าปัจจัยสำคัญที่สุดของความสำเร็จอยู่ที่ตัวผู้สอนเอง พร้อมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยทบทวนกลยุทธ์เพื่อเตรียมบัณฑิตให้พร้อมกับ “โลกแห่งการเรียนรู้ไร้พรมแดน” และส่งเสริมการคิดร่วมเพื่อรับมือกับความท้าทายของยุคสมัย
ทั้งนี้ งาน SoTL10 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3–4 กรกฎาคม 2567 โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันคลังสมองของชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และมหาวิทยาลัยพันธมิตรกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แรงบันดาลใจ และแนวปฏิบัติด้านการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทั้งในเชิงนโยบายและระดับห้องเรียน มุ่งหวังให้เกิดการขับเคลื่อนระบบอุดมศึกษาไทยให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างเท่าทัน พร้อมทั้งส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่จะช่วยวางรากฐานสำคัญสู่อนาคตการศึกษาที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่น และไร้พรมแดนอย่างแท้จริง